1. ปูอลาสก้าไม่ได้หาจับได้ในบ้านเรานะคะ ถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันจะอยู่ในแถบทะเลแบริ่ง และอ่าวอลาสก้า ใต้ทะเลแบริ่งมีหุบเหวความลึกเฉลี่ย 1,600 เมตร และยังมีอุณหภูมิต่ำอาจจะอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส หรือติดลบ บอกได้เลยว่าเจ้าปูอาลาสก้าเนี่ยเปรียบเหมือนพระเอกค่าตัวแพงแบบที่ พี่ติ้กต้องหลบ ณเดชณ์ต้องหลีก เลยค่ะคุ๊ณณณ!!!

ขอบคุณภาพจาก Christian Skauge

 

2. ถิ่นที่จับปูอลาสก้ามีอุณหภูมิหนาวเย็นขนาดที่น้ำสามารถกลายเป็นน้ำแข็งได้ทันที ประกอบกับคลื่นลมรุนแรง ทำให้สามารถตกลงไปในท้องทะเลได้ตลอดเวลา และหากใครตกลงไปก็สามารถเสียชีวิตได้ทันที จากการสูญเสียความร้อนอย่างฉับพลันค่ะ

ค่าตัวแพงไม่พอยังจะเข้าถึงตัวยากอีกนะคะคุณปูอลาสก้า!

ขอบคุณภาพจาก Corey Arnold

 

3. การที่จะไปลักพาตัวพระเอก เอ้ย! ไปจับปูอลาสก้า ต้องมีการเตรียมพร้อมทั้งเรือ ร่ายกาย อุปกรณ์การทำประมง และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายต่างๆ เพื่อให้สามารถอยู่รอดปลอดภัยในสมรภูมิรบจากธรรมชาติที่แสนอันตราย ไม่สตรองจริงอยู่วงการนี้ไม่ได้นะคะบอกเลย!

ขอบคุณภาพจาก karenducey

 

4. Deadliest Catch หรือคนจับปูอลาสก้า เป็นอาชีพเสี่ยงตายที่สุดในโลกแต่รายได้ก็สูงตามความเสี่ยง ทำงานเพียงปีละ 5 วัน และหาเงินได้มากราว 3.5 ล้านบาท จากการสำรวจพบว่า อัตราการตายของคนจับปูอลาสก้านั้นมากกว่าคนงานธรรมดาถึง 30-40 เท่า โดยทุกสัปดาห์ในช่วงฤดูจับปูอลาสก้าจะต้องมีคนงานเสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน!! ห้อยหลวงปู่ทวดไปจับปูอาจจะช่วยท่านได้นะคะ สาธุ …

ขอบคุณภาพจาก saltydogboatingnews

 

หายส่งสัยแล้วใช่มั้ยคะว่าทำไมปูอลาสก้าถึงมีค่าตัวที่แพง เพราะกว่าจะได้มาไม่ง่ายเลย แต่ถ้าคุณได้ลองรสความหวานอย่างเป็นธรรมชาติจากเนื้อปูที่เด้ง นุ่ม ความฉ่ำของเนื้อปู คุณอาจจะติดใจจนอยากไปตามล่าหาตัวมันเองถึงทะเลแบริ่ง

แต่อย่าเพิ่งวู่วามค่ะ! ทำแบบนั้นคงจะเสี่ยง (ชีวิต) เกินไป เรามีวิธีง่ายๆเพียงแค่ปลายนิ้ว กดโทร 090-236-2393 “LOBSTERGANGSTERS” พร้อมส่งความอร่อยให้คุณได้ทุกที่ถึงใจกับปูอลาสก้าตัวใหญ่ๆเน้นๆ รออะไรคะ หรือ คลิ๊ก 👇👇 https://line.me/R/ti/p/%40lobstergangsters

ขอบคุณภาพจาก seagrant